100 ปี แฟชั่นผู้ชาย View Gallery 12 Photos 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 100 ปี แฟชั่นผู้ชาย 100 Years of Fashion- Men ★ Mode.com-screenshot Source: 100 ปี แฟชั่นผู้ชาย 012 Source: 100 ปี แฟชั่นผู้ชาย 011 Source: 100 ปี แฟชั่นผู้ชาย 010 Source: 100 ปี แฟชั่นผู้ชาย 009 Source: 100 ปี แฟชั่นผู้ชาย 008 Source: 100 ปี แฟชั่นผู้ชาย 007 Source: 100 ปี แฟชั่นผู้ชาย 006 Source: 100 ปี แฟชั่นผู้ชาย 005 Source: 100 ปี แฟชั่นผู้ชาย 004 Source: 100 ปี แฟชั่นผู้ชาย 003 Source: 100 ปี แฟชั่นผู้ชาย 002 Source: ย้อนเวลากับสไตส์การแต่งตัวของผู้ชาย 100 ปี ที่ผ่านมา คงไม่มีหนุ่มๆคนไหนกล้าปฏิเสธว่า แฟชั่นเครื่องแต่งกายตามยุคสมัยของคุณผู้ชาย ได้ถูกวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีการบ่งบอกถึงวัฒนธรรมในยุคสมัยๆนั้นๆ รวมทั้งการออกแบบเสื้อผ้าที่มีรูปทรงแตกต่างกันออกไปอย่างเห็นได้ชัด เนื้อผ้าแต่ละชนิด ก็ยังถูกพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงโทนสีสันในการสวมใส่ ซึ่งได้รับความนิยมและส่งต่อรุ่นสู่รุ่น MenOption จึงรวบรวมสไตส์การแต่งตัวในยุคสมัยต่างๆ มาให้ชมกันครับ เพื่อเป็นแนวทางในการแต่งตัวสไตส์ย้อนยุคให้ดูอินเทรน์ มีความแฟชั่นและโดนเด่นในแบบฉบับของตัวคุณเอง ในขณะที่งานศิลปะยุคปัจจุบันก็อาจส่งแรงบันดาลใจต่อไปยังงานศิลปะยุคอนาคตก็เป็นได้ เริ่มที่ ยุค 1915 : กับการแต่งตัวด้วยแจ๊คเกตลายสก๊อต ภายในสวมใส่เชิ๊ตขาว ตัดกับกางเกงสีเบจ เสริมด้วยหมวก ทรง Flat cap ตัดความโดนเด่นอีกนิดด้วยการผูก Bowtie สีสรรค์สดใส รองเท้าหนังสุดคลาสสิคและนิยมไว้หนวดเคราทรง Handlebar ในลุคนี้ยังแสดงออกถึงหนุ่มๆ ที่มีความมั่นใจและมีสไตส์อย่างชัดเจน ยุค 1925 : เข้าสู่ยุคสมัยของสุภาพบุรุษ ที่มีสไตส์การแต่งตัว สี Cooltone เช่นสีฟ้าอ่อน สีเทา ตกแต่งแจ๊คเกตด้วยผ้าที่มีดีไซน์ของเนื้อผ้า ที่ดูเบาสบายและสะอาดตา และมีการเล่นลายที่เนื้อผ้าบางๆ ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป แต่ยังคงใส่เสื้อเชิ๊ตสีขาว ซึ่งยังได้รับแรงบันดาลใจมากจากยุค 1915 และกางเกงจะมาในโทนสี ขาว ครีมและเบจ ตัดด้วย Bowtie ที่มีลวดลายและลูกเล่นชัดเจน นิยมสวมใส่ หมวกทรง Pork pie หมวกสานทรงแข็ง สี ขาว,เบจ,หรือครีม ซึ่งลุคนี้จะแสดงออกถึง ความร่าเริงและความผ่อนคลายในสมัยนั้น ยุค 1935 : แฟชั่นชายในยุคสมัยนี้จะเน้นการสวมใส่ชุดสูทอย่างเป็นทางการ เป็นแนวโน้มแฟชั่นที่โดดเด่นที่สุด โดยจะมีการใส่สูทที่มีเสริมบ่าที่มีแผ่นเสริมขนาดใหญ่ ชุดสูทมีลวดลายชัดเจนกับโทนผ้าสีเข้ม มีความสมารท์และดูดีใส่หมวกทรง Bowler derby สวมใส่ถุงมือซึ่งเป็นที่นิยมทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไปในพริบตา มีความหรูหรามากขึ้น ยุค 1945 : เป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม หรือยุคหลังสงครามโลกนั่นเอง ดังนั้นสไตส์การแต่งตัว จะบ่งบอกถึงเสรีภาพ เสื้อผ้าแฟชั่นช่วงสงครามยังคงมีอิทธิพลต่อการออกแบบแฟชั่นชาย โดยมักจะสวมใส่ชุดสูททางการเชิงนักธุรกิจ มีการสวมใส่เสื้อกั๊ก และกางเกง 2 จีบ นิยมใช้ผ้าขนสัตว์ในการตัดเย็บ โทนสี ดำ น้ำเงิน เทา น้ำตาลเข้ม จะเห็นได้ว่ามีความหลากหลายในการสวมใส่มากยิ่งขึ้น แต่มีน้ำหนักเบา นิยมออกแบบสไตส์วินเทจให้มีความคล่องตัวในการสวมใส่ ผู้ชายในยุคนี้ จะมีความตื่นตัวและกระตือรือร้นอยู่เสมอ เพราะอยู่ในช่วงสงคราม นั่นเองครับผม ยุค 1955 : แนวคิดเกี่ยวกับเสื้อผ้าบุรุษสำหรับผู้ชายในทศวรรษ 1955 เป็นการแต่งตัวที่ทำให้เกิดภาพลักษณ์ของการกระตือรือร้น นิยมสวมใส่เสื้อแจ๊คเกตหนังสัตว์ คู่กับกางเกงยีนส์ที่มีสไตส์ (หรือที่หนุ่มๆชอบเรียกกันว่า “เสื้อยืดกางเกงยีนส์”) ยุคนี้จะอยู่ในยุคสิ้นสงครามโลกครั้งที่สองไปแล้ว ใช้การแต่งตัวสไตส์ Casual มากขึ้น แมทซ์ให้ลุคดูดีด้วยการเลือกรองเท้าสนีกเกอร์ เพื่อความผ่อนคลาย ง่ายๆสบายๆ แต่ยังคงความเท่ห์อยู่ ยุค 1965 : ยุคที่อยู่ในสไตส์ของวงดนตรีชื่อดัง “เดอะบีทเทิล” ไอคอนดัง การแต่งตัวที่มีสีสันฉูดฉาด และทรง Fab Four ที่เป็นที่นิยมมากในสมัยนั้น การสวมใส่แจ๊คเกตสีคัลเลอร์ฟู เสริมด้วยรองเท้าหนังที่มีความมันวาว แม้กระทั่งการเปลี่ยนสีผม และการโยกย้ายเพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรี ช่วงนี้เริ่มเข้าสู่ยุคแห่งแฟชั่นจ๋า ที่ให้ความสนุกสนานในการแต่งตัวอย่างไร้กรอบ ไร้ขีดจำกัดจิงๆครับผม ยุค 1975 : เป็นยุคของแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น จึงไม่แปลกที่เทรนด์ย้อนยุคจะกลับมาสร้างสีสันให้โลกแฟชั่นได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการแต่งตัวในยุคนี้ ที่มีเสน่ห์ด้วยดนตรีดิสโก้ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนให้ผู้คนกล้าที่จะแสดงออกซึ่งสไตล์อย่างไร้ขีดจำกัด ทั้งสีสันที่ฉูดฉาด กางเกงขาบานที่เหล่าฮิปปี้สวมใส่จนกลายเป็นเทรนด์ฮิตไปทั่วโลก ด้วยความหลากหลายของไอเท็มและความสนุกสนานที่ใครๆก็สามารถสวมใส่ได้ ยุค 1985 : ยุคแห่งการแต่งตัวแฟชั่นผู้ชายวินเทจ แฟชั่นยุคนี้จะเป็นการแต่งตัวที่เป็นสไตส์ของตัวเองมากๆ ไม่ว่าจะสีสัน รูปทรงในการตัดเย็บ ความสนุกสนาน และการดีไซน์อย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบัน แฟชั่นนี้ ยังเป็นที่นิยมในบรรดาหนุ่มๆ เช่นเดิม ยุค 1995 : เข้าสู่ยุคแฟชั่นสตรีท ที่มีการสวมใส่กางเกงยีนส์ เสื้อยีนส์ หรือแจ็คเก็ตหนังสีดำ กับแว่นตากันแดด เพราะยุคนี้เป็นยุคที่มีการเปิดกว้างทางความคิด และเป็นจุดเริ่มต้นของแฟชั่นอีกหลากหลายสไตส์ ปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมอยู่ครับผม ไอเท็มเก่าๆบางชิ้นที่เราคิดว่าตกยุคไปแล้ววันดี คืนดี ก็ดันกลับมาอินเทรนด์ใหม่ซะอย่างงั้น ยุค 2005 : ในยุคนี้ยังคงได้รับอิทธิพลในการแต่งตัวไม่ค่อยแตกต่างจากยุค 1995 สักเท่าไหร่ ยังคุมโทนสีที่สวมใส่สบาย ไม่แฟชั่นจนเกินไป เน้นงานยีนส์และเสื้อเชิ๊ต ให้ลุคที่ดูชิว สามารถสวมใส่ได้ทุกฤดูกาล ยุค 2015 : เป็นยุคของสไตส์การแต่งตัวที่เรียบง่าย แต่ดูมีคลาส เช่น Mix and Match เสื้อยืด,เสื้อเชิ๊ตสีพื้นกับกางเกงยีนส์เป็นการแต่งตัวที่ได้ลุคแบบสบายๆ ชิลล์ๆ สุดๆ แต่ยังดูดีไม่แพ้ยุคอื่นเลยครับผม เรียบเรียงโดย :Menoption ภาพโดย MOD W.J Editorial team of MenOption for Men section which working space is around with the laugh and love of family :) Previous Article ทำไม "สูทสีน้ำเงิน" ต้องเข้ากับกางเกงสีน้ำตาลเสมอ Next Article เทคนิคจีบสาว มัดใจเธอให้อยู่หมัด