TIPS FOR BUYING THE BEST CLOTHING FABRICS เคล็ดไม่ลับ! เลือกเนื้อผ้าสำหรับเครื่องแต่งกายที่ยอดเยี่ยม
- เมื่อคุณต้องการเลือกชื้อเสื้อผ้าในสไตล์ที่ดีที่สุด และบางครั้งดีไซน์ที่วางขายในท้องตลาดก็มีให้เลือกอย่างมากมาย อาจจะทำให้คุณบุรุษมือใหม่สับสน ว่าต้องพิจารณาว่าเลือกอย่างไรถึงจะได้ดีไซน์ของเครื่องแต่งกายที่ดีที่สุด สิ่งแรกที่จะดึงดูดคุณคือโทนสีและลวดลายของเนื้อผ้าที่ถูกใจ อย่างไรก็ตามการเลือกโทนสีและเนื้อผ้าก็ยังคงเป็นเรื่องของการพิจารณาอันดับต้น ยังมีอีกหลากหลายองค์ประกอบที่คุณบุรุษควรศึกษาและทำความเข้าใจ วันนี้ Menoption นำมาฝากกันครับ
1. QUALITY OF THE FABRIC คุณภาพของเนื้อผ้า
- ก่อนที่คุณจะคัดเลือกเนื้อผ้าชนิดต่างๆ สำหรับเครื่องแต่งกายนั้น ควรศึกษาและทำความรู้จักเกี่ยวกับเนื้อผ้าเบื้องต้น ว่าเป็นเนื้อผ้าชนิดใด เหมาะกับการออกแบบแพทเทริน์และการตัดเย็บแบบใด อาทิเช่น ผ้าลินิน ผ้าฝ้าย ผ้าโพลีเอสเตอร์ และเนื้อผ้าเส้นใยคุณภาพสูง อย่างเส้นใยเนื้อผ้าขนสัตว์ ควรทำความรู้จักถึงผิวสัมผัส และรู้ถึงจุดเด่น จุดด้อย ของเนื้อผ้าชนิดนั้นๆ ว่าคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับการตัดเย็บหรือไม่ รวมถึงสไตล์ของโทนสีและเส้นใยที่มีคุณสมับัติพิเศษของเนื้อผ้าชนิดต่างๆ การเลือกเครื่องแต่งการที่เพอร์เฟคนั้น สิ่งแรกคือการเลือกคุณภาพเนื้อผ้าที่เพอร์เฟค เพื่อเครื่องแต่งกายที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด
2. TYPE OF FABRIC ประเภทของเนื้อผ้า
- การออกแบบสำหรับเส้นใยเนื้อผ้า ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมผลิตขึ้น โดยใช้เส้นใยจากธรรมชาติเป็นหลัก หรืออาจจะเลือกเส้นใยสังเคราะห์ หรือการผสมผสานเส้นใยทั้งสองชนิดเข้าร่วมกัน อาทิเช่น เนื้อผ้าเส้นใยธรรมชาติอาจจะแบ่งแยกย่อย เป็นผ้าลินิน ผ้าเดนิม ผ้าไหม – และในส่วนของเนื้อผ้าจำพวกเส้นใยสังเคราะห์ ตัวอย่างเช่น ผ้าโพลีเอสเตอร์ ผ้าเรยอน เส้นใยสแปนเด็กซ์ชนิดต่างๆ ที่จะมีการผสมผสานระหว่างเนื้อผ้าเส้นใยธรรมชาติและเส้นใยสังเคราะห์เข้าร่วมกัน ดังนั้นคุณควรพิจารณาว่าต้องการเนื้อผ้าชนิดใด ซึ่งเนื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ โดยส่วนใหญ่แล้ว จะค่อนข้างมีราคาสูงกว่า ประเภทเนื้อผ้าที่ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ เพื่อเป็นไปตามคุณภาพของเครื่องแต่งกายและงบประมาณที่ต้องการ
3. COLOR FASTNESS ความคงทนของสี
- เมื่อได้พิจารณาเกี่ยวกับเนื้อผ้าชนิดต่างๆแล้ว ควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับการติดทนของโทนสีเนื้อผ้า หรือคัดเลือกเนื้อผ้าที่สวมใส่ได้อย่างยาวนาน โดยที่สีไม่เปลี่ยนระหว่างการใช้งาน ไม่ซีดจาง และเนื้อผ้าที่มีการผลิตโดยมีโทนสีที่ไม่สม่ำเสมอ อาจจะสังเกตุได้จากรอยพับของเนื้อผ้า โดยที่ส่วนใหญ่จะมีโทนสีที่ซีดจางหรืออ่อนกว่าบริเวณอื่น ทำให้สามารถคาดการณ์ได้ว่า เนื้อผ้าชนิดนี้ เมื่อสวมใส่ต่อเนื่องในระยะเวลาที่ยาวนานและ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงของโทนสี หรือเกิดการซีดจางของโทนสีได้ โดยการทดสอบคุณภาพของโทนสีของเนื้อผ้า สามารถตรวจสอบได้ โดยใช้ผ้าเช็ดหน้าสีขาวหรือสำลีถูบริเวณเนื้อผ้า ถ้ามีสีหลุดของเนื้อผ้าติดผ้าเช็ดหน้า แสดงให้เห็นว่าเนื้อผ้าชนิดนั้นเป็นเนื้อผ้าที่ไม่มีคุณภาพในการนำมาตัดเย็บหรือสามารถสวมใส่ได้อย่างยาวนานมากพอ อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของโทนสีเนื้อผ้า รวมถึงสีเฟคลงและซีดจางได้ เป็นเนื้อผ้าที่สีตกคุณภาพไม่ดีมากพอ
4. SUITABILITY AND LOCATION โอกาสที่เหมาะสมสำหรับการสวมใส่
- การเลือกสไตล์ต้องคำนึงถึงความเหมาะสมของเนื้อผ้าที่สามารถสวมใส่ได้ในโอกาสนั้นๆเป็นสำคัญ ตัวอย่างเช่นคุณไม่สามารถนำผ้าขนสัตว์มาตัดเย็บเป็นชุดว่ายน้ำได้ หรือชุดกีฬาได้เช่นกัน – ไม่สวมใส่เนื้อผ้าขนสัตว์แบบหนาในสถานที่ที่มีอากาศร้อน อย่างเช่นทะเลทราย – หรือเนื้อผ้าสไตล์ซีฟองไม่เหมาะสำหรับเทือกเขาเอลป์ ที่มีสภาพอากาศติดลบ – ผ้าฝ้ายจึงเหมาะสำหรับเสื้อผ้าในช่วงฤดูร้อน เพราะอาจจะมีคุณสมบัติในเรื่องของการระบายความร้อนได้เป็นอย่างดี ดังนั้นโอกาสที่สวมใส่จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความใส่ใจอย่างพิถีพิถัน
5. SHRINKAGE การหดตัวของเนื้อผ้า
- อีกปัจจับหนึ่งที่จะช่วยในการพิจารณาเลือกชื้อเนื้อผ้าของคุณ จำเป็นที่คุณจะต้องรู้ว่าเนื้อผ้าชนิดนั้นๆ จะมีการหดตัวหลังซักหรือไม่ โดยสามารถสังเกตุจากป้ายกำกับเนื้อผ้า อาทิเช่น “Sanforised “, ” Mercirised” เป็นต้น ซึ่งหมายถึงเนื้อผ้าชนิดนั้น จะมีคุณสมบัติของการหดตัวที่น้อย ตั้งแต่ 3% – 10% เพียงเท่านั้น เพื่อรักษารูปทรงของเส้นใยเนื้อผ้า ให้เครื่องแต่งกายดูดีตลอดดการใช้งาน
6. COLOR โทนสีที่เหมาะสม
- การเลือกสไตล์ของโทนสีเนื้อผ้า ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกัน โดยเฉพาะถ้าคุณจำเป็นต้องเลือกออกแบบเครื่องแต่งกายสำหรับคุณเองเพียงเท่านั้น ควรจะต้องมีการพิจารณาเกี่ยวกับโทนสีผิวของคุณ เพื่อให้ได้รูปลักษณ์ของเครื่องแต่งกายที่สมบูรณ์และเสริมความสง่างาม อาทิเช่นหากคุณเลือกโทนสีในสไตล์งานแต่ง ก็ควรจะมีการตรวจสอบถึงโทนสีที่ต้องสวมใส่ในงานนั้นๆ เป็นหลัก ว่าสอดคล้องกับรูปแบบของงานนั้นหรือไม่ โดยต้องคำนึงถึงโทนสีเครื่องแต่งกายในช่วงเวลากลางวัน ซึ่งจะมีสไตล์ที่แตกต่างกับเครื่องแต่งกายในสไตล์กลางคืนอย่างชัดเจน ดังนั้นควรพิจารณาโทนสี โดยคัดเลือกจากแสงธรรมชาติเพียงเท่านั้น เพื่อการเลือกสรรค์โทนสีที่เหมือนจริง และเหมาะสมกับงานและโอกาศที่สวมใส่ต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
7. PATTERN ลวดลาย
- ดีไซน์ลวดลายของเนื้อผ้าที่คุณควรพิจารณา โดยอาจคัดเลือกจากความชื่นชอบ และรูปแบบที่แตกต่าง โดยสามารถเสริมความโดดเด่น การออกแบบลวดลายควรมีการออกแบบได้อย่างเรียบเนียนและมีดีไซน์ที่กระจายอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการต่อลายที่สมูทกัน บริเวณตะเข็บหรือรอยต่อต่างๆ ต้องมีการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์ไม่บิดเบี้ยวหรือแตกลาย เพื่อรูปลักษณ์แห่งแฟชั่นที่เพอร์เฟคสำหรับคุณบุรุษอย่างลงตัว โดยลวดลายที่เหมาะสมกับแพทเทริน์ที่เพอร์เฟค สามารถสร้างสไตล์แฟชั่นให้กับลุคของคุณได้
8.FABRIC WEIGHT น้ำหนักผ้า
- เส้นใยของการผลิตเนื้อผ้า ควรพิจารณาเกี่ยวกับเรื่องของน้ำหนักเนื้อผ้าชนิดต่างๆ ซึ่งสามารถแยกออกโดยค่า GSM ตั้งแต่ 60-700 เป็นต้นไป ยกตัวอย่างเช่น เนื้อผ้าเดนิมก็จะมีค่า GSM ประมาณ 400 ขึ้นอยู่กับชนิดการทอเส้นใยที่มีความแน่น และทำให้มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น แต่ไม่ได้หมายถึงว่าเนื้อผ้าที่มีน้ำหนัก จะเป็นเนื้อผ้าที่ดีเสมอไป ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติที่โดดเด่นของเนื้อผ้าแต่ละชนิด ตามโอกาสที่จะเลือกสวมใส่ได้อย่างเหมาะสมเป็นหลัก
และนี่คือทั้งหมด ของการคัดเลือกเนื้อผ้าที่มีคุณสมบัติที่ดี สามารถนำมาออกแบบตัดเย็บได้อย่างตรงตามต้องการ ส่วนคุณบุรุษจะชื่นชอบเนื้อผ้า ประเภทใด มีสีสันลวดลายแบบใด ก็ตามสไตล์ส่วนตัวเลยครับ
www.menoption.com