100 Years of Men’s Fashion กับสไตล์การแต่งตัวของสุภาพบุรุษรุ่นสู่รุ่น

วันนี้ Menoption จะพาไปตามติดเทรน์แฟชั่นของสุภาพบุรุษ 100 ปีที่ผ่านมา ว่าเทรน์แฟชั่นแบบไหนยังคงอยู่ และตามเช็คแฟชั่นที่กลับมาฮิตอีกครั้งในปุัจจุบันกัน โดยเฉพาะเทรน์แฟชั่นชุดสูทของแฟชั่นสุภาพบุรุษในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา จะมีความน่าสนมากแค่ไหน ตาม Menoption ไปเช็คกันได้เลยครับ

1900-1919

  • ในช่วงแรกของการเปลี่ยนศตวรรสุภาพบุรุษส่วนใหญ่ตั้งแต่คนชั้นกลางขึ้นไปก็มักจะเริ่มใส่ชุดสูทกันบ้างแล้ว เนื่องด้วยได้รับความนิยมมาจากฝั่งอังกฤษ ตั้งแต่ช่วงปี 1800 จนถึงช่วงต้นปี 1900 โดยสไตล์การแต่งตัวในยุคนี้ จะเน้นใส่ชุดสูทที่มีชิ้นส่วนสามชิ้น หรือการเลือกใส่ชุดในสไตล์ เสื้อแจ็คเก็ต, กางเกงและใส่เสื้อกั๊ก Waistcoat ซึ่งถือเป็นสไตล์ที่ยอดนิยมกันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งคุณสุภาพบุรุษตั้งแต่ชนชั้นกลางเป็นต้นไปยังนิยมใส่ เสื้อโค้ตตอนเช้าและช่วงเวลากลางวัน หรืออาจะใส่เสื้อแจ๊คเก็ตในบางโอกาศเช่นกัน นอกเหนือจากนี้โทนสีที่นิยมสวมใส่ จะมาในสไตล์โทนสีที่มีเฉดสีเข้มแต่ดูดีสีสันไม่มึดทืบ และค่อนข้างเปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อยในแต่ละวัน นั้นเป็นการแสดงออกถึงความมีฐานะและความร่ำรวย ผ่านการแต่งกายนั่นเองครับ ในช่วงทศวรรษที่ 1910 ผ้าที่มีน้ำหนักเบาและชุดสูทที่เรียบง่ายได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และในช่วงครึ่งหลังของปี 1910 ชุดสูทในตอนกลางวันของผู้ชายประกอบด้วยเสื้อแจ๊กเก็ตแบบเดี่ยวที่มีปกปกแคบ และผูกเน็คไท รวมถึงแฟชั่นการสวมใส่รองเท้าบู๊ต

1920-1929

  • เข้าสู่สไตล์การแต่งตัวของช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 กันครับ ความเป็นคนดนตรีสไตล์แจ๊สเริ่มมีอิทธิพลอย่างมากในการแต่งตัวของสุภาพบุรษในช่วงยุคนี้ ชุดสูทที่นิยมสวมใส่กัน ก็จะมีสไตล์ค่อนข้างเบสิค เรียบง่ายและมีขนาดที่พอดีตัวเป็นหลัก เน้นการสวมใส่ในโทนสีที่ดูสว่างมายิ่งขึ้นจะไม่ใส่เหมือนช่วงทศวรรษก่อนหน้านี้ เช่นสีดำหรือสีเทาก็จะไม่ค่อยเป็นเทรน์ยอกนิยมสักเท่าไหร่ อย่างที่บอกครับจะเน้นใสไตล์ที่เรียบง่ายและดูสง่างามมากยิ่งขึ้น ผู้ชายเริ่มสวมแจ๊คเก็ตที่ความกระชับและสลิมขึ้น และในช่วง ปี ค.ศ. 1920 เริ่มนิยมใส่เสื้อเชิ๊ตที่มีปกที่อ่อนนุ่ม ผู้ชายเริ่มผูกวินด์เซอร์ ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจ เป็นกระแสของฮอลลีวู๊ดที่ได้รับความโด่งดังทางด้านวงการสื่อมากที่สุด จึงเกิดเป็นสไตล์ที่แต่งตัวเลียนแบบคนในวงการมากยิ่งขึ้น เรียกว่าเริ่มมีสีสันในการแมทซ์สไตล์อย่างสุดๆ เช่นการเน้นการใส่กางเกงที่รัดรูปโชว์สัดส่วนที่ดูดีอย่างชัดเจน และกางเกงทรงยอดนิยมอย่าง “Oxford Bags” เป็นที่ชื่นชอบอย่างหนาแน่นภายในยุคนี้ ไฮไลท์ของเทรน์การแต่งตัวในช่วงนี้ ถ้าคุณเป็นสุภาพบุรุษที่เน้นความอินเทรน์แล้วหล่ะก้อ แน่นอนคุณไม่สามารถออกจากบ้านได้โดยไม่มีหมวก นอกจากแสดงถึงความแฟชั่นในตัวคุณแล้วยังสามารถบ่งบอกถึงรสนิยมทางสังคมได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วยผ่านสไตลืการเลือกหมวก อาเช่น หมวกทรงปานามา ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงติดเทรน์แฟชั่นอยู่อย่างต่อเนื่อง หรือว่าจะเป็นหมวก Fedoras ก็กลายเป็นไอเท็มยอดฮิตประจำทศวรรษ ในปี ค.ศ. 1920 เลยก็ว่าได้ครับ อาจะใช้ทำจากผ้าทวีดหรือขนสัตว์ แมทซ์แจ็คเก็ตหนังและผ้าพันคอผ้าไหมสีขาว เป็นอันฟินิชลุคได้อย่างยอดเยี่ยมครับ

1930-1939

  • มาถึงช่วงอุตสาหกรรมแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจพูดกันง่ายๆว่าไม่ค่อยดีนั่นเองล่ะครับ นั่นคือสาเหตุของการลดต้นทุนในการผลิตเสื้อผ้า ดังนั้นสำหรับใครที่ยังชื่นชอบการแต่งตัวกันอยู่ ก็จะเริ่มมีสไตล์การแมทซ์ของเก่ากับของใหม่เข้าร่วมกัน ให้ได้สไตล์ที่แปลกตา ชุดสูทแพทเทรน์ยอดนิยมในยุคนี้ จะเริ่มที่ทรงสูทที่ดูโอเวอร์กว่าไซส์ตัวสักเล็กน้อย เน้นแผ่นเสริมไหล่เสริมบ่าที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น มีการออกแบบช่วงขาทีเรียว และนิยมสวมใส่เสื้อกล้ามในชีวิตประจำวัน เพื่อเน้นสรีระของคุณสุภาพบุรุษในยุคนี้ได้อย่างชัดเจนนั่นเองหล่ะครับ ส่วนเรื่องของโทนสีของสูทนี้ ก็จะเน้นไปที่ชุดสูทที่มีสีเข้มเป็นสีกลาง เนื่องจากโทนสีสดใสถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรนำออกมาใส่ในช่วงวิกฤตของเศรษฐกินใจช่วงนี้นั่นเอง ส่วนเนื้อผ้าที่ยอดนิยมคงจะเป็นเนื้อผ้าขนสัตว์ ผ้าทวีตลายเล็ก หรือผ้าลินินนั่นเองครับ
    ส่วนดีไซน์ของกางเกงจะเน้นการตกแต่งจีบด้านหน้าหรือส่วนกลางเป็นหลัก สวมเสื้อโปโลโดยมีการตกแต่งกระเป๋า เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม ส่วนเรื่องเทรน์ของอุปกรณ์เสริมนั้น นิยมใส่หมวก หมวก Newsboy และหมวก Ivy บวกกับรองเท้าทรง Oxfords หรือรองเท้าทรงหนังนิ่มและรองเท้ามีส้นขึ้นมาเล็กน้อย แมทซ์กับการใส่ถุงเท้าที่ต้องมีสีสันที่สดใสขึ้นมาสักเล็กน้อย กลายเป็นองค์ประกอบที่ทันสมัยเพื่อเพิ่มความมีสีสันในช่วงปลายก่อนเริ่มต้นยุคใหม่ แม้สภาพเศรษฐกิจยังดีขึ้นไม่มาก แต่เหล่ากลุ่มสุภาพบุรุษยังปรารถนาที่จะยังดูทันสมัยในขณะที่ต้องประหยัดเรื่องแฟชั่นเสื้อผ้าและตัดค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป

1940-1949

  • หลายคนคิดว่าทศวรรษที่ 1940 เป็นทศวรรษสุดท้ายของสไตล์และความสง่างามของเหล่าสุภาพบุรุษอย่างแท้จริง เพราะอยู่ในช่วงของความรุนแรงของสงคราม จึงเริ่มมีอิทธิพลและกระทบต่อโลกแฟชั่น โดยกระทั่งการสวมใส่ชุดสูท ก็คือว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรเพราะการตัดเย็บชุดสูทนั้น ต้องใช้เนื้อผ้าที่มากเกินไป หลังจากผ่านช่วงสงคราไปแล้ว เทรน์ของแจ๊คเก็ตกระดุมหน้าแบบคู่ก็เริ่มเข้ามา และการแต่งกายเริ่มจะมีสีสันมากยิ่งขึ้น ทุกคนในยุค 40 สวมเน็คไทเพราะมันถูกมองว่าเป็นวิธีที่จะแสดงบุคลิกลักษณะของตัวเองหลังจากหลายปีที่ผ่านมาที่ไม่สามารถใส่ได้ แฟชั่นเริ่มฟื้นตัวอีกครั้ง เสื้อผ้าสไตล์ Casual เริ่มกลับมา เช่นเสื้อแนวฮาวายที่เราคุ้นตากันดีก็ได้รับแรงบันดาลใจมากจากยุคนี้ หรืออยู่ในช่วงของ Elvis Presley นั่นเองครับ แฟชั่นและดนตรีเริ่มมีสีสัน ในปลายยุค 40

1950-1959

  • ในตอนต้นทศวรรษเครื่องแต่งกายของสุภาพบุรุษจะมีสไตล์ที่ดูเรียบง่าย นักธุรกิจส่วนใหญ่นิยมวมใส่ชุดในเครื่องแบบที่ผลิตจากเนื้อผ้ากำมะหยี่ในโทนสีเข้มเป็นหลัก ลักษณะของคอเชิ๊ตจะไม่เด่นชัดมาก แต่ยังมีสไตส์การดีไซน์กระดุมคู่อยู่ เน้นใส่หมวกที่มีทรงที่แคบลง ด้วยความผ่อนคลายที่เพิ่มมากขึ้นของยุค 50 นี้ เรื่องของการคมนาคมเริ่มเฟื่องฟู และในด้านกีฬาก็เช่นเดียวกัน แฟชั่นที่เข้ามาจึงเป็นสไตล์แฟชั่นเสื้อเชิ๊ตและเสื้อโปโลเป็นส่วนใหญ่ แมทซ์กับกางเกงขาสั้นในโทนสีพาสเทล ถือเป็นเทรน์ชุดลำลองของผู้ชายในสมัยนี้ เน้นวัสดุในการตัดเย็บที่โดดเด่นเรื่องน้ำหนักเบาสามารถสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้แฟชั่นแว่นกันแดดเริ่มมาในช่วงยุคนี้ ก่อนหน้านี้ แว่นกันแดดนั้นถือเป็นสินค้าที่หรูหราและมีระดับมาก เหมาะสำหรับชนชั้นสูงเพียงเท่านั้น ในยุคนี้กลายเป็นสินค้าที่ชื้อง่ายมากยิ่งขึ้น ราคาไม่สูงปรี๊ด และได้ความนิยมอย่างต่อเนื่องในเทรน์แฟชั่นแว่นตามาถึงปัจจุบันนี้ สุภาพบุรุษนี้ยังได้รับอิทธิพลจากช่วงสมัย ร็อคแอนด์โรล มาอย่างเต็มๆ อีกทั้งแฟชั่นทรงผมแนวนี้เป็นทรงผมประจำยุคไปแล้วและแฟชั่น”เอลวิสเพรสลีย์”ยังคงอยู่ อาทิเช่นสไตล์ เสื้อยืดสีขาวและดำ สวมเสื้อยืดเบสบอลแมทซ์เข้ากับกางเกงยีนส์เข้ากับแจ๊คแก็ตเสื้อหนังกับหมวกทรง fedoras และปิดท้ายด้วยแฟชั่นรองเท้าที่ฮตมากในตอนนี้อย่าง Converse Chuck Taylor All-Stars มาจากยุค 50 นั่นเองล่ะครับ

1960-1969

  • มาถึงแฟชั่นของยุค 60 ที่ถือเป็นอีกช่วงของการปฏิวัติวงการแฟชั่นอย่างโดดเด่นและชัดเจนมากที่สุด โดยเริ่มมีสไตล์ของการเปลี่ยนทรงผมที่หลากหลาย ไว้ผมยาวมากยิ่งขึ้น นิยมสวมผ้าพันคอสีสันสดใส และลวดลายยอดนิยมของยุคนี้ก็คือ ลาย Paisley นั่นเองหล่ะครับ ,กางเกงเนื้อกำมะหยี่ กับเสื้อผ้าแขนพองๆ เน้นการสวมใส่ชุดที่กระชับและเข้ารูป ออกแนวแฟชั่นหลุดโลกและเป็นผู้นำในด้านแฟชั่น เป็นช่วงเลาที่เพลงของฝั่งอังกฤษมีอิธิพลในการแต่งตัวของวัยรุ่นสมัยนี้อย่างสูง เช่นวง The Beatles(เดอะบีทเทิล)

1970-1979

  • โดยในยุคเริ่มจาก 1972 รองเท้าแพลตฟอร์มและกางเกงขากระดิ่ง หรือชุดว่ายน้ำสไตล์ ชุดว่ายน้ำและ Tracksuits หรือกางเกงเอวสูงและรัดต้นขาอย่างพอดี นิยมใส่คู่กับเสื้อแจ๊คเก็ตหรือชุดสูทและเสื้อคอกว้าง เน้นลวดลายดอกและลายสก๊อตเป็นหลัก เทรน์การใส่เสื้อคอเต่าก็ยอดนิยมเช่นกัน ถือว่าเป็นเทรน์ของสไตล์แฟชั่นที่มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

1980-1989

  • ต่อเนื่องมาในยุคนี้ที่เน้นสไตล์ที่มีรูปแบบของความลำลองมากยิ่งขึ้น สวมใส่สบายๆ เนื่องจากจัดเต็มกันมาอย่างยาวนานของสมัยยุคที่แล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งของเทรน์แฟชั่นที่น่าสนใจครับ แต่ความร้อนแรงของเทรน์แฟชั่นจะไม่หวือหวาเท่ายุคก่อนหน้านี้ เน้นสไตล์ Activewear มากยิ่งขึ้น เช่นการจับคู่กางเกงขายาวกับเสื้อสเวตเตอร์ และรองเท้าสนีคเกอร์ เช่น Nike Air Jordans- เป็นทางเลือกเบอร์ต้นของเทรน์แฟชั่นในยุคนี้ หรือจะเป็นการใส่เสื้อเชิ๊ตแขนยาว ชุดสูทของผู้ชายเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจในยุค 80 เน้นสวมใส่ในโทนสีกลางๆ และกางเกงทรงลวมสำหรับสวมใส่ในทุกๆโอกาศ นอกจากนี้ก็จะมีเทรน์ของเสื้อ เสื้อโปโล Preppy และ Turtlenecks เป็นต้นครับ

1990-1999

  • ยุค 90 ได้รับการ พิสูจน์ว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในแง่ของแฟชั่นเนื่องจากสุภาพบุรุษ เป็นการรวมวัฒนธรรมของการแต่งกายในยุค 60, 70 และ 80 เข้าด้วยกัน เน้นการแต่งตัวในสไตล์ Hip-hop และ Grunge , หรือเทรน์เสื้อยืดกางเกงขาสั้น,กางเกงยีนส์กับรองเท้าสนีคเกอร์ก็ยังคงอยู่ – โดยที่มีการแต่งตัวในสไตล์ชุดทำงานมากยิ่งขึ้น เป็นสังคมนิยมในสมัยใหม่ ทางการและแอคทีฟ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความหรูหราและความเย้ายวนใจในแฟชั่น ด้วยโทนสีและการตัดเย็บที่เรียบง่าย แจ็คเก็ตหนัง, เสื้อกันหนาวถัก, กระดุมผ้าลินิน, กางเกงยีนส์หลวมๆ สไตล์ Overalls ,หมวกทรงเบสบอล และเสื้อสเวตเตอร์ลายกราฟฟิคต่างๆ

และนี่คือเทรน์ของสไตล์การแต่งตัวที่ที่ได้รับอิธิพลมาอย่างยาวนาน และหลากหลายสไตล์ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของยุคปัจจุบันนี้ด้วยเช่นกัน ชอบแต่งตัวสไตล์ไหน ก็อย่าลืมนำไปมิกซ์ให้ได้สไตล์ในแบบฉบับของคุณเองกันด้วยน่ะครับ

www.menoption.com

 

W.J

Editorial team of MenOption for Men section which working space is around with the laugh and love of family :)

ABOUT

"แหล่งร่วมข้อมูลความรู้และข่าวสารที่จะช่วยให้คุณผู้ชายดูดีขึ้น"